โรคตับอักเสบชนิดซี คืออะไร

โรคตับอักเสบชนิดซี เป็นไวรัสที่ทำให้ตับของท่านมีอาการเจ็บป่วย การดื่มเหล้ามากเกินจำนวน การใช้ยาเสพติด ใช้สารเคมีบางชนิด และเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ ล้วนเป็นสาเหตุก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยให้ตับของท่านได้ทั้งสิ้น

ตับของท่านมีความสำคัญต่อสุขภาพของท่านมาก  เมื่อตับเกิดอาการชำรุด ก็จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ จึงเป็นเหตุให้ท่านเกิดอาการป่วยหนักได้

ตับอักเสบชนิดซี บางครั้งก็มีชื่อเรียกย่อๆว่า “เฮ๊ป ซี”


ฉันจะติดเชื้อตับอักเสบชนิดซี ได้อย่างไร


ท่านสามารถติดเชื้อตับอักเสบชนิดซี ได้ หากเลือดของผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซี เข้าไปอยู่ในกระแสเลือดของท่าน  โดยท่านสามารถติดเชื้อตับอักเสบชนิดซีได้ ถึงแม้ปริมาณของหยดเลือดจะเป็นจำนวนเพียงเล็กน้อยมากเสียจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นก็ตาม

 

กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง

  • การใช้เข็มฉีดยา กระบอกฉีดยา และช้อนชาร่วมกับผู้อื่นในการฉีดยาเสพติด  นับเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้คนติดเชื้อตับอักเสบชนิดซีได้บ่อยที่สุด
  • การสลักรอยสัก เจาะแทงร่างกาย หรือประกอบพิธีต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ
  • กระบวนการที่ผิวหนังได้รับการเจาะแทงด้วยเข็มทางการแพทย์  ทางทันตกรรม หรือการฝังเข็ม ด้วยเข็มที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ

 

กิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำ

  • มารดาผู้ป่วยเป็นโรคตับอักเสบชนิดซี ถ่ายทอดโรคนี้ให้กับทารกในครรภ์ หรือตอนคลอด
  • การใช้แปรงสีฟันและมีดโกนหนวดร่วมกับผู้อื่น
  • เจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพที่ได้รับอุบัติเหตุจากการถูกเข็มฉีดยาแทงโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

ท่านไม่สามารถติดเชื้อตับอักเสบชนิดซีได้จาก

  • การใช้ห้องสุขา หรือห้องอาบน้ำฝักบัวร่วมกัน
  • เหงื่อ หรือการซักเสื้อผ้าให้กับผู้ที่เป็นป่วยเป็นโรคตับอักเสบชนิดซี
  • การใช้ภาชนะ เช่น มีด ช้อนส้อม จานชาม ถ้วยและแก้วน้ำ ร่วมกับผู้อื่น
  • กินอาหารที่ปรุงโดยผู้ที่เป็นป่วยเป็นโรคตับอักเสบชนิดซี
  • การจาม การไอ จุมพิต หรือกอดกัน
  • การใช้สระว่ายน้ำ
  • การถูกแมลงสัตว์กัดต่อย (เช่น ยุง)

การฉีดวัคซีน  ถ่ายเลือด และกระบวนทางการแพทย์และทันตกรรมในออสเตรเลีย นับว่าปลอดภัยเมื่อมีการปฏิบัติครบถ้วนตามกฎระเบียบที่ได้กำหนดไว้

ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าฉันติดเชื้อตับอักเสบชนิดซี


คนส่วนใหญ่ จะดูไม่ออกว่าป่วยเป็นโรคนี้ อาการป่วยที่เห็นบ่อยที่สุดคืออาการคลื่นไส้ วิธีเดียวที่จะรู้ได้ก็คือโดยการตรวจเลือด

ฉันควรไปตรวจเมื่อไหร่


พึงขอให้แพทย์ทำการตรวจท่าน หากท่านเคย

  • ฉีดยาเสพติด ถึงแม้ว่าจะเพียงครั้งเดียว หรือเป็นเวลานานมาแล้วก็ตาม (ประเภทของยาเสพติด

ยังรวมถึงยาสเตอรอยด์ที่ใช้ในสถานกรีฑาด้วย)

  • ติดคุกมาก่อนไม่ว่าจะในประเทศไหนก็ตาม
  • ได้รับการโอนถ่ายอวัยวะในร่างกาย หรือเลือดในประเทศออสเตรเลียก่อนปี คศ 1990 หรือในประเทศหนึ่ง

ประเทศใดก่อนที่จะมีการริเริ่มการตรวจสอบเชื้อโรคตับอักเสบชนิดซี

  • มีรอยสักหรือรอยเจาะแทงตามผิวหนังมาก่อน
  • มาจาก สถานที่ ที่ผู้คนจำนวนมากติดเชื้อตับอักเสบชนิดซี เช่นอาฟริกา ตะวันออกกลาง (โดย

เฉพาะประเทศอียิปต์) เมดิเตอร์เรเนี่ยน  ยุโรปตะวันออก และเอเชียใต้

  • มารดาของท่านเป็นโรคตับอักเสบชนิดซีมาก่อน
  • ท่านเป็นชายที่มีเชื้อเอชไอวี และมีเพศสัมพันธ์กับเพศชายด้วยกัน
  • คู่นอนของท่านเป็นโรคตับอักเสบชนิดซี

ไวรัสตับอักเสบชนิดซี มีผลอย่างไรต่อร่างกายของฉัน


ไวรัสตับอักเสบชนิดซี จะเข้าไปในเซลล์ของตับและผลิตจำนวนไวรัสเพิ่มมากขึ้นอีกภายในตับ ร่างกายของคนเราจะพยายามต่อสู้กับไวรัสที่อยู่ในเซลล์ตับอันจะมีผลทำให้ตับถูกทำลาย  บางครั้งร่างกายของท่านก็อาจจะสามารถกำจัดไวรัสให้หมดไปได้เอง  ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ภายในหกเดือนหลังการติดเชื้อไวรัสนั้น

แต่ร่างกายของคนส่วนใหญ่จะไม่สามารถกำจัดไวรัสได้ทั้งหมด  เมื่อเวลาผ่านไปนานหลายปี

ตับของคนเราก็จะถูกทำลายโดยเกิดรอยแผลเป็นขึ้นมากมาย  ซึ่งเรียกว่าอาการ “ตับแข็ง” อันเป็นสาเหตุนำไปสู่โรคมะเร็งตับ และเกิดภาวะตับล้มเหลวได้

โรคตับอักเสบชนิดซี สามารถรักษาหรือบำบัดให้หายได้ไหม


ได้  แพทย์ของท่านสามารถสั่งจ่ายยารักษาโรคตับอักเสบชนิดซีให้ท่านได้

ฉันต้องบอกคนอื่นไหมว่าฉันเป็นโรคตับอักเสบชนิดซี


ตามกฎหมาย ท่านจะต้องแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ทราบ

  • หากท่านทำการบริจาคเลือดให้แก่ธนาคารเลือด
  • หากท่านทำการบริจาคอวัยวะในร่างกาย (เช่น ไต) หรือของเหลวจากร่างกาย (เช่น น้ำอสุจิ) ให้แก่ผู้อื่น
  • บริษัทประกันภัยบางแห่งจะขอให้ท่านแจ้งล่วงหน้าหากท่านติดเชื้อตับอักเสบชนิดซี หรือเป็นโรคอย่างอื่นมาก่อน  หากท่านไม่บอกความจริงนี้ให้เขาทราบล่วงหน้า บริษัทฯก็อาจจะไม่ยอมจ่ายเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลเยียวยาให้ท่านตอนท่านเรียกร้องก็ได้
  • หากท่านต้องการเข้ารับราชการในกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลีย (ADF)  ท่านมีหน้าที่ต้องแจ้งให้ทางการทราบ
  • หากท่านเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพที่ทำงานเกี่ยวกับกระบวนการทางการแพทย์ที่อาจมองไม่เห็นมือของตัวเอง (ดังเช่นศัลยแพทย์ หรือทันตแพทย์)  ท่านมีหน้าที่ต้องแจ้งให้นายจ้าง หรือหัวหน้างานของท่านรับทราบ และขอคำแนะนำจากแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

ท่านไม่จำเป็นต้องแจ้งให้บุคคลต่อไปนี้ทราบ

  • นายจ้าง
  • เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนในชั้นเรียน
  • ครอบครัว
  • เพื่อนฝูง

แพทย์ของท่าน จะไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับครอบครัวของท่านได้

ฉันจะหลีกเลี่ยงการติดโรคตับอักเสบชนิดซี ได้อย่างไร


  • อย่าใช้เข็มฉีดยา กระบอกฉีดยา หรือช้อนชาฉีดยาเสพติดร่วมกับผู้อื่น
  • เลือกใช้สถานบริการสักรอยตามร่างกาย และการเจาะแทงตามร่างกายอย่างระมัดระวัง  ให้ใช้เฉพาะบริการของมืออาชีพที่ถือใบอนุญาตเท่านั้น  และต้องแน่ใจว่าเขาใช้เข็มและหมึกชุดใหม่สำหรับลูกค้าทุกคน
  • ใช้ถุงยางอนามัยเป็นประจำหากท่านมีคู่นอนมากกว่าหนึ่งคน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าท่านเป็นเพศชายที่มีเพศสัมพันธ์กับเพศชายด้วยกัน
  • หลีกเลี่ยงการรับเลือดหรือผลิตภัณฑ์เลือดจากประเทศที่ไม่ทำการตรวจสอบผู้บริจาคเลือดเสียก่อน
  • อย่าใช้แปรงฟันหรือมีดโกนหนวดร่วมกับผู้อื่น
  • ถ้าท่านเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลด้านสุขภาพ ท่านพึงปฏิบัติตามกฎระเบียบตามมาตรฐานที่ตั้งไว้อย่างเคร่งครัด

ถึงแม้ว่าท่านจะเคยเป็นโรคตับอักเสบชนิดซี ในอดีต และได้กินยารักษาจนหายดีแล้วก็ตาม  ท่านก็ยังอาจติดเชื้อโรคตับอักเสบชนิดซีได้ใหม่อีกครั้งเป็นเรื่องธรรมดา

ฉันจะขอความช่วยเหลือและคำแนะนำได้จากที่ไหน


ในออสเตรเลีย จะมีกลุ่มชุมชนที่คอยให้คำแนะนำและความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับอักเสบชนิดซีอยู่หลายแห่งที่ท่านสามารถไปขอใช้บริการได้


ขอความช่วยเหลือจากชุมชนตับอักเสบ

ข้อมูลเพิ่มเติม